การบริการ
ศูนย์แสงเหนือ เป็นผู้นำแห่งการพัฒนาภาษาพูดสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ร่วมกับการใช้อุปกรณ์ช่วยการได้ยินที่เหมาะสม
ศูนย์แสงเหนือมีบริการครบวงจรเพื่อช่วยให้ผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินสามารถพัฒนาศักยภาพทางการฟังและการพูด เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีอนาคตที่ไร้ขีดจำกัด

ศูนย์แสงเหนือมอบบริการให้กับเด็ก และ ผู้ใหญ่ที่ใช้อุปกรณ์ช่วยการได้ยิน
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องช่วยฟัง เครื่องช่วยฟังผ่านกระดูก และ ประสาทหูเทียม โดยการบริการต่าง ๆ มีรายละเอียดดังนี้:

การฝึกฟังเพื่อพัฒนาภาษาพูดสำหรับเด็กวัยก่อนเข้าเรียน
(ในห้องเรียนเตรียมความพร้อม)
ห้องเรียนเตรียมความพร้อมสำหรับเด็กที่ความบกพร่องทางการได้ยินตั้งแต่อายุ 2-7 ปี เป็นการเรียนเป็นกลุ่ม ไม่เกิน 8 คน เปิดรับสมัครตลอดปี โดยมีการเรียนการสอนมุ่งเน้นการใช้การฟัง การใช้ภาษาเพื่อการเรียนรู้ ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม การเล่น การร้องเพลง การฟังนิทาน ห้องเรียนเตรียมความพร้อมประกอบด้วยครูการศึกษาพิเศษ และครูปฐมวัยที่ได้รับการอบรมอย่างต่อเนื่องในด้านการสอนเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเพื่อใช้ทักษะการฟังในการพัฒนาภาษาพูด ทำงานร่วมกับนักฝึกพูดผ่านทักษะการฟัง
เรียนทุกวันอังคาร ถึงวันศุกร์ 4 วันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น.
เด็กทุกคนจะได้รับการฝึกพูดผ่านทักษะการฟังรายบุคคลเป็นเวลา 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในการเรียน เพื่อพัฒนาการเรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ ในการนำไปใช้ที่บ้าน ผู้ปกครองจะเข้าเรียนพร้อมลูกน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
ในแต่ละภาคเรียน ผู้ปกครองจะได้ร่วมประชุมกับครูประจำชั้นและครูฝึกพูดเพื่อติดตามรายงานความก้าวหน้าและวางแผนการเรียนร่วมกัน

การฝึกฟังเพื่อพัฒนาภาษาพูด - แบบเข้มข้น
การบริการนี้ เหมาะสำหรับเด็กที่ได้รับการผ่าตัดประสาทหูเทียมมาเกิน 1 ปี แต่มีพัฒนาการด้านการฟัง และการพูดล่าช้ากว่าอายุการได้ยิน หรือเด็กที่ผ่าตัดประสาทหูเทียมเมื่อมีอายุเกิน 3 ปี เป็นการเรียนรายบุคคล รับสมัครเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 3-8 ปี เพื่อเร่งกระบวนการเรียนรู้แบบเข้มข้นด้านการฟัง คำศัพท์ กระตุ้นพัฒนาการองค์รวมของประสาทการรับรู้ ส่งเสริมการทำงานของสมองเพื่อการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาภาษาพูดให้ทันอายุจริงเพื่อเตรียมเข้าเรียนในโรงเรียนร่วมกับเด็กอื่นๆ ในวัยเดียวกัน เป็นการเรียนจำนวน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ร่วมกับการอบรมผู้ปกครอง 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

การฝึกฟัง ฝึกพูด และฟื้นฟู
การฟังและภาษารายบุคคล
การฟัง และ ภาษา คือกระบวนการบำบัดฟื้นฟูภาษา ผ่านการฟัง แบบตัวต่อตัว เพื่อการพัฒนาการด้านการฟัง ด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิด ระหว่างครอบครัวกับนักฝึกพูดผ่านการฟัง โดยมีจุดมุ่งหมายในการใช้ภาษาพูดให้ได้เหมาะสมกับวัย รวมถึงการเข้าร่วมในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุขตลอดไป
แนวการบำบัดทางการพูดผ่านการฟัง เป็นแนวทางการใช้ครอบครัวเป็นศูนย์กลางในการมอบโอกาสให้ผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน (ทั้งเด็ก และ ผู้ใหญ่) เรียนรู้ที่จะฟัง เพื่อให้เสียง ไปกระตุ้นสมองในส่วนของการฟัง จนสามารถเชื่อมโยงการฟังนั้นกับความเข้าใจ และสามารถตอบโต้กลับมาได้อย่างเหมาะสม

การอบรมส่งเสริมศักยภาพ
ผู้ปกครอง
การบริการนี้ เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการทุ่มเทเวลาให้กับลูกที่พึ่งได้รับการผ่าตัดประสาทหูเทียม เพื่อคาดหวังผลลัพท์สูงสุดในการพัฒนาภาษาพูดผ่านการใช้การฟัง โดยครอบครัวนั้นจะถูกพัฒนาศักยภาพจนสามารถเป็นบุคคลหลักในการส่งเสริมการเรียนรู้ มอบการฝึกให้กับลูกน้อยโดยตรง ตลอดช่วงการเดินทางในวัยเจริญเติบโตและเรียนรู้ของเขา
การอบรมจะมี 2 แบบ
แบบที่ 1 คือการเรียนแบบกลุ่ม ผู้ปกครองจะเข้ารับการอบรมจำนวนทั้งสิ้นเป็นเวลา 40 ชั่วโมง ใช้เวลา 2 สัปดาห์เต็ม ๆ ตั้งแต่เวลา 9.00-15.00 น. วันจันทร์ ถึงวันศุกร์ ในช่วงสัปดาห์ที่ 3-4 ของเดือนมีนาคม
แบบที่ 2 คือการเรียนเฉพาะครอบครัว ผู้ปกครองสามารถจัดสรรเวลาในการเข้าอบรมได้ตามสะดวก ใช้เวลาสัปดาห์ละ 2-4 ชั่วโมง จำนวน 48 ชั่วโมง
การให้ความรู้ผู้ปกครองและครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จในการพัฒนาเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินที่ต้องการใช้ภาษาพูด เพราะหากผู้ปกครองและครอบครัวได้รับความรู้ ความเข้าใจในเทคนิคการนำมาใช้เพิ่มขึ้น ก็จะสามารถช่วยเหลือลูกที่มีความบกพร่องทางการได้ยินให้สื่อสารได้เป็นธรรมชาติ และมีการพัฒนาการทางภาษาที่สมวัยมากขึ้นเช่นกัน

การเรียนออนไลน์
การเรียนออนไลน์นั้นเหมาะสำหรับผู้ปกครองและบุตรหลานที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัด และสามารถเข้าถึงการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต เพื่อต่อภาพวีดีโอกับครุฝึกพูดผ่านการฟังที่ศูนย์ โดยครูจะส่งแผนการสอนให้ล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ปกครองได้อ่าน ทำความเข้าใจ และเตรียมอุปกรณ์การสอนตามที่ครูแนะนำไว้ เมื่อถึงเวลานัดหมาย ผู้ปกครอง บุตรหลาน จะต่อวีดีโอให้เห็นหน้าครู ครูจะสามารถเห็นเด็ก ผู้ปกครอง และอุปกรณ์ที่ได้เตรียมไว้

การกระตุ้นพัฒนาการโดย
นักกิจกรรมบำบัด
โปรแกรมนี้ส่งเสริมพัฒนาการองค์รวม เพื่อกระตุ้นสมอง ประสาทการรับรู้ การเคลื่อนไหว การทรงท่า สหสัมพันธ์ของซีกซ้ายและขวาของร่างกาย สหสัมพันธ์ของอวัยวะต่าง ๆ ที่ต้องทำงานร่วมกัน ส่งเสริมพัฒนากล้ามเนื้อต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การหยิบจับ การพูด การสื่อสาร การควบคุมอารมณ์ ส่งเสริมความสามารถทางด้านความจำ ให้มีศักยภาพในการเรียนรู้ได้ มีสมาธิ สามารถประกอบกิจกรรมต่าง ๆ เหมาะสมกับวัย