2.3 สร้างเส้นทางสู่การรู้หนังสือ
เวลาที่คุณอ่านหนังสือให้ลูกน้อยในทุก ๆ วัน คุณได้ช่วยให้สมองในส่วนของการฟัง ภาษา การเรียนรู้นั้นเจริญเติบโต การเรียนรู้ที่จะฟัง และ พูดนั้นมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับการรู้หนังสือของลูกน้อย

การรู้หนังสือแปลว่าอะไร? การรู้หนังสือคือความสามารถในการสื่อสารผ่านตัวหนังสือที่เขียนไว้ มันมีความหมายมากกว่าการอ่าน และ การเขียน มันหมายความถึงความสามารถในการคำนวณ การมีทักษะทางด้านเทคโนโลยี และความสามารถในการแก้ไขปัญหาอีกด้วย
ให้คุณคิดว่า การอ่านนั้นเปรียบเสมือนกับการต่อยอดให้กับการเรียนรู้
เริ่มตั้งแต่วัยก่อนเข้าเรียนจนถึงประถม 2 เด็ก ๆ นั้นจะถูกสอนให้เรียนรู้การอ่าน เมื่อเริ่มเข้าประถม 3 เด็ก ๆ จะเริ่มปรับเปลี่ยนเป็นการอ่านเพื่อการเรียนรู้เพิ่มเติม ดังนั้นมันจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ลูกที่มีความบกพร่องทางการได้ยินจะมีความสามารถในการอ่านให้ได้ตามอายุการเรียนในระดับชั้นจริงภายในประถม 3 คุณช่วยให้เขาสำเร็จได้ โดยการนำการอ่านเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของเขา
อ่านหนังสือให้ลูกฟังในทุก ๆ วัน

ทักษะการรู้หนังสือนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ลูกยังอยู่ในเปล ไม่ได้เริ่มจากห้องเรียน การเริ่มอ่านนิทานให้ลูกแรกคลอดฟังให้เร็วที่สุด เท่าที่จะทำได้ มันอาจจะดูเมือนว่าเร็วไปที่จะทำเช่นนั้น แต่มันช่วยให้สมองของทารกน้อยนั้นเริ่มพัฒนา
อ่านนิทานให้ลูกน้อยที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน หรือ หูหนวก ฟังในทุก ๆ วัน จะช่วยให้เด็กน้อยได้เรียนรู้ที่จะฟัง และ พูด มันจะช่วยให้เขา เมื่อเติบโตขึ้น จะเป็นผู้ที่มีความสามารถในการอ่านคล่องอีกด้วย ก่อนที่ลูกน้อยของคุณจะเริ่มจำ เอ บี ซี หรือ กอ ขอ คอ ประสบการณ์ที่เขาเติบโตมากับหนังสือ และ การอ่าน จะช่วยให้เขาสามารถสร้างการเชื่อมโยงกับสมองของเขาได้อย่างง่ายดาย
การกระตุ้นพัฒนาการแบบใช้การฟังเพื่อพัฒนาภาษาพูดนั้น คุณจะได้เรียนรู้ขั้นตอนต่าง ๆ ที่จะนำมาใช้ ทำให้คุณเข้าใจได้มากขึ้นเกี่ยวกับการเชื่อมโยงของการฟัง กับ การรู้หนังสือ
เรียนรู้เกี่ยวกับการฟังเพื่อพัฒนาภาษาพูด กับ การรู้หนังสือ
หนึ่งในสิ่งที่มีความสำคัญที่สุดที่คุณทำให้ลูกได้
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการอ่านและการเรียนรู้ คือการอ่านออกเสียงร่วมกับลูกน้อย
อ่านให้ลูกน้อยฟังตั้งแต่วัยเด็ก และอ่านให้บ่อย ไม่มีทารกน้อยคนใดที่เล็กเกินไป ที่จะได้ยินคุณ อ่านออกเสียงให้เขา เพียงวันละ 15 นาที ก็จะสร้างความแตกต่างได้
เมื่อคุณอ่านนิทานให้ทารกน้อยฟัง เขาอาจจะได้ยินนิทานสนุก ๆ แต่จริง ๆ คือเขากำลังเรียนรู้ภาษา การอ่านออกเสียงให้ลูกฟังนั้นจะช่วยให้สมองของลูกเติบโต เตรียมพร้อมที่จะฟัง พูด อ่าน และเรียนรู้ การอ่านออกเสียง ยังช่วยพัฒนาทักษะด้านการคิด ความเข้าใจ ความสงสัย ตวามคิดสร้างสรรค์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ประโยชน์การอ่านออกเสียง
การอ่านออกเสียงให้คุณประโยชน์กับลูกน้อยมากมายในการพัฒนาการเรียนรู้หนังสือ

สร้างความสุข ความจำในวัยแรกเริ่มจากการอ่าน

สร้างอารมณ์ที่เป็นบวกจากหนังสือ

การแนะนำคำศัพท์ใหม่ๆ จากการเล่าเรื่องราว

สร้างพฤติกรรมการอ่านให้เป็นนิสัย ติดตัวไปจนเป็นผู้ใหญ่

เตรียมตัวลูกน้อยเพื่อการเรียนรู้หนังสือและความสำเร็จในการเรียน
จำใว้ว่า คุณสามารถทำสิ่งเหล่านี้ให้มันดุไม่ยาก ทารกน้อยเพียงขอบฟังคุณพูดคุย คุณไม่จำเป็นต้องอ่านทุกๆ คำ ให้ทารกน้อยฟัง
แทนที่จะอ่านหนังสือ คุณสามารถเพียงยกหนังสือขึ้นมา แล้วพูดคุยกับลูกเกี่ยวกับภาพในหนังสื่อแต่ละหน้า ใช้คำหรือวลีง่ายๆ แล้วหยุดรอเพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่จะเปิดหน้าใหม่ การกระทำเช่นนี้จะทำให้ทารกน้อย มีเวลาในการฟังและมองไปที่ภาพในหนังสือ
แทนที่จะอ่านหนังสือ คุณสามารถเพียงยกหนังสือขึ้นมา แล้วพูดคุยกับลูกเกี่ยวกับภาพในหนังสือแต่ละหน้า ใช้คำ หรือ วลีง่าย ๆ แล้วหยุด รอเพียงไม่กี่วินาที ก่อนที่จะเปิดหน้าใหม่ การกระทำเช่นนี้ จะทำให้ทารกน้อยมีเวลาในการฟัง และมองไปที่ภาพในหนังสือ

สร้างการอ่านหนังสือให้เป็นกิจวัตร
สร้างการอ่านหนังสือให้เป็นกิจวัตร
การนั่งบนที่นอน กอดลูกแล้วอ่านหนังสือให้ลูกฟังตอนเขาพึ่งเริ่มตื่นนอน หรือช่วงที่ป้อนข้าวในตอนเช้า
ใช้เวลาเล็กน้อยในการอ่านหนังสือเพื่อที่จะช่วยให้เขาสงบ หรือเป็นการค่อย ๆ ปลุกให้เขาตื่น
หากคนอื่นเป็นผู้ที่ขับรถ ให้คุณถือโอกาสในเวลานี้อ่าน หรือหากคุณต้องเป็นผู้ที่ขับรถ ให้คนที่นั่งไปด้วย(อาจจะพี่ชาย หรือพี่สาว) ให้อ่านหนังสือไปด้วยกันกับลูกน้อยในช่วงนั่งรถ
ให้นำหนังสือนิทานใส่ลงไปในกระเป๋าใส่ของจิปาถะของลูก ในช่วงที่รอคิวนัดหมอ นัดตรวจการได้ยิน หรือรอฝึกพูดนี้ คุณสามารถอ่านหนังสือให้ลูกฟังได้
ให้อ่านหนังสือเกี่ยวกับสถานที่ ๆ คุณกำลังจะไป หรือสร้างหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์ที่คุณและลูกได้ไปมาด้วยกัน
นั่งกอดกันบนเตียงเพื่อที่จะอ่านหนังสือให้กันฟังภายหลังการอาบน้ำ เตรียมตัวเข้านอน เพื่อให้เป็นการกล่อมให้ลูกสงบลง
คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ลุง ป้า น้า อา พี่ชาย พี่สาว ลูกพี่ ลูกน้องทั้งหลาย สามารถเข้ามามีส่วนร่วมด้วยได้! ลูกน้อยของคุณจะสนุกไปกับการฟังเสียงที่แตกต่างกันของบุคคลต่าง ๆ ในครอบครัว
การร้องเพลงและคำคล้องจอง
เวลาคุณร้องเพลง หรือพูดคำคล้องจองกัน ลูกน้อยของคุณทราบดีว่านั่นคือช่วงของการเรียนรู้!
การร้องเพลงคือกิจกรรมที่มีความสำคัญมากใรการช่วยให้ลูกน้อยที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเรียนรู้ที่จะฟังและพูด คุณทราบหรือไม่ ว่าคุณสามารถทำช่วงเวลาในทุก ๆ วัน ให้เป็นช่วงเวลาของการร้องเพลงไปด้วยกัน? ลูกน้อยของคุณจะชอบที่จะได้ยินเสียงคุณร้องเพลง!
การสร้างทักษะทางภาษา และ การอ่านด้วยการร้องเพลง
เพลง และคำคล้องจอง มีมากกว่าการสร้างคำศัพท์ใหม่ๆ มันจะช่วยพัฒนาเสียงให้ใส่ เสียงคำพูดให้ชัดเจน ความจำในคำศัพท์ การขับร้องเพลงถือเป็นการสร้างรากฐานของการรู้หนังสือ และเสียงของคุณจะเป็นเสียงที่ลูกน้อยยินดีที่จะได้ยินมากที่สุด!
ทำตัวให้สนุก และร้องเพลง!
การออกกำลังสามขั้นตอน
การเล่นกันระดับเสียง
ในขณะที่คุณกำลังอุ้มลูกยกขึ้น ยกลง ให้ร้องเพลงโดยใช้วลีดังนี้ “1-2-3 ยกขึ้น ขึ้น ขึ้น แล้วก็ 1-2-3 ยกลง ลง” ลง ในขณะที่ทำเสียงให้สูงขึ้น ตอนยกลูกขึ้น แล้ว ก็ทำเสียงให้ต่ำลง ตอนยกลูกลง
สังเกต และ หยุด
ในขณะที่คุณกำลังอุ้มลูกยกขึ้น ยกลง ให้ร้องเพลงโดยใช้วลีดังนี้ “1-2-3 ยกขึ้น ขึ้น ขึ้น แล้วก็ 1-2-3 ยกลง ลง” ลง ในขณะที่ทำเสียงให้สูงขึ้น ตอนยกลูกขึ้น แล้ว ก็ทำเสียงให้ต่ำลง ตอนยกลูกลง
การทำเพลงขึ้นมาเอง
ไม่เพียงแต่การขับร้องนี้จะมีความสำคัญสำหรับการเรียนรู้ภาษา มันทำให้ชีวิตสนุกขึ้นด้วย ทำเพลงขึ้นมาเองเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของลูก ร้องเพลงเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ้าอ้อม การกินอาหารเช้า หรือเวลาเล่นกับของเล่น
หนังสือประสบการณ์
หนังสือประสบการณ์ช่วยให้ลูกน้อยไปได้ไกลกว่าการพูดเกี่ยวกับปัจจุบัน มันจะทำให้ลูกพูดเรื่องเหตุการณ์ที่เขาประสบพบเจอในอดีต
การร้องเพลงคือกิจกรรมที่มีความสำคัญมากใรการช่วยให้ลูกน้อยที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเรียนรู้ที่จะฟังและพูด คุณทราบหรือไม่ ว่าคุณสามารถทำช่วงเวลาในทุก ๆ วัน ให้เป็นช่วงเวลาของการร้องเพลงไปด้วยกัน? ลูกน้อยของคุณจะชอบที่จะได้ยินเสียงคุณร้องเพลง!
เมื่อทำหนังสือประสบการณ์เสร็จแล้ว หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้ลูกได้เล่าเรื่องจากมุมมองของเขา
เขาสามารถจะฝึกการเล่าเรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง หรือเขาได้ไปไหนมา หรือเขาไปทำอะไรมา
ตัวอย่างเช่น หนังสือประสบการณ์อาจจะเป็นการทำขึ้นมาหลังจากที่ได้พาลูกไปเที่ยวสวนสัตว์หรือไปจ่ายตลาด
(หรือไปซุปเปอร์มาร์เก็ต) คุณยังสามารถทำหนังสือขึ้นมาเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันได้อีกด้วย
เช่น ช่วงทางอาหารเช้า หรือ ช่วงเตรียมตัวก่อนเข้านอน
หนังสือประสบการณ์ช่วยได้อย่างไร
เป้าหมายของกรสอนลูกน้อยให้ฟังได้ และ พูดได้นั้น รวมถึงการมีบทสนทนา และการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน ครูหรือนักกระตุ้นพัฒนาการที่ใช้การฟังเพื่อพัฒนาภาษาพูดนั้นจะช่วยให้ลูกคุณเรียนรู้ทักษะที่สำคัญ และ จำเป็นต่าง ๆ หนังสือประสบการณ์เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการช่วยให้ลูกเกิดความมั่นใจในการเป็นผู้พูด