3.3 การได้ยินของลูกวัยก่อนเข้าเรียน
ลูกน้อยวัยก่อนเข้าเรียนของคุณกำลังพัฒนาทักษะใหม่ ๆ และความเป็นอิสระ

ค้นหาเพิ่มเติมว่า คุณสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อให้การสนับสนุนเรื่องอุปกรณ์ช่วยการได้ยิน ด้านการนัดหมายผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยิน และด้านการเข้ารับการฝึกพูดผ่านทักษะการฟัง
อุปกรณ์ช่วยการได้ยินของลูกวัยก่อนเข้าเรียน
อุปกรณ์ช่วยการได้ยินของลูกน้อยของคุณ ควรจะถูกเปิดไว้ ทำงานได้ตามปกติ และลูกน้อยใส่ตลอดเวลาที่เขาตื่น เป็นเวลาอย่างน้อย 12 ชั่วโมงต่อวัน อย่าลืม! ตาลืมขึ้น หูได้ยิน!
คุณต้องมั่นใจด้วยว่าครูที่โรงเรียน และผู้ดูแลลูก ได้รับการอบรมการใช้งานของเครื่อง และเขาเหล่านั้นยินดีหยิบ จับ ตรวจสอบ อุปกรณ์ของลูกคุณ คุณพึงจะสร้างความมั่นใจให้กับบุคคลเหล่านั้นในการใช้งานอุปกรณ์ของลูกน้อย และเปิดโอกาสให้เขาแจ้งข้อมูลหากพบข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำงานของอุปกรณ์ หรือการได้ยินของลูกน้อยของคุณ
หากลูกน้อยของคุณชอบการเคลื่อนไหว อยู่ไม่นิ่ง คุณสามารถนำหมวกมาให้เขาใส่ หรือใช้สายคาดศีรษะ เพื่อให้อุปกรณ์อยู่กับตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อให้อุปกรณ์เปิดทำงานตลอดเวลา หลายคนชอบขี่จักรยาน ในปัจจุบันหมวกที่ใช้สำหรับการขี่จักรยานนั้นสามารถใช้กับอุปกรณ์ช่วยการได้ยินได้เป็นอย่างดี
การพูดแทนตนเอง
ในช่วยวัยนี้ ลูกน้อยของคุณจะสามารถใส่อุปกรณ์การได้ยินด้วยตนเองได้แล้ว เปลี่ยนสายคอล์ยเองได้หากสายคอล์ยไม่ทำงาน ให้คุณพร่ำสอนทักาะให้ลูกพูดแทนตนเองต่อไป เหมือนที่ได้คุยกับลูกที่ยังอยู่ในช่วงวัยเตาะแตะ ใช้เวลาในการสอนอะไหล่ และการทำงานของอุปกรณ์ช่วยการได้ยิน ความหมายของไฟสีต่าง ๆ ที่ปรากฏบนเครื่องแปลงสัญญาณ ประสาทหูเทียม สอนให้เขาทราบวิธีการเปลี่ยนแบตเตอรี่
การตรวจสอบอุปกรณ์ และการทดสอบการฟัง ประจำวัน
เมื่อลูกน้อยมีความมั่นใจในการใส่อุปกรณ์ช่วยการได้ยินด้วยตนเองแล้ว เป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะตรวจสอบอุปกรณ์ช่วยการได้ยินในทุก ๆ เช้า เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ช่วยการได้ยินนั้นทำงานเป็นปกติ
ให้ตรวจสอบอุปกรณ์ และการทดสอบการฟัง ประจำวันเพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ช่วยการได้ยินของลูกน้อย ทำงานเป็นปกติ เมื่อคุณได้ทำสิ่งนี้เป็นประจำในตอนเช้าของทุกวัน ลูกน้อยก็จะมีความพร้อมที่จะได้ยินเสียงต่าง ๆ ทุกเสียง ได้ยินสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวเขา
เช็คแบตเตอรี่
ให้คุณมั่นใจว่าแบตเตอรี่นั้นมีไฟเต็ม ให้เปลี่ยนแบตเตอรี่หากพบว่ากำลังอ่อน
ฟังอุปกรณ์ช่วยการได้ยินแต่ละข้าง
ใช้สายฟังเสียงจากอุปกรณ์ที่ทางผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำมา ฟังเสียงจากอุปกรณ์ ให้มั่นใจว่าอุปกรณ์นั้นทำงานเป็นปกติ
ตรวจสอบการฟัง
ตรวจสอบและยืนยันกับลูกน้อยว่าเขาได้ยิน และระบุเสียงที่คุณพูดได้ ในเวลาที่คุณออกเสียงหกเสียงของ ดร. ลิงค์ ให้ลูกพูดทวนเสียงที่ได้ยินทุกครั้ง สิ่งสำคัญอีกข้อคือการตรวจสอบในแต่ละระยะห่าง ให้ทำการทดสอบในระยะ 2, 4, 8 เมตร (6 12 และ 24 ฟุต)
- /m/ เหมือนคำว่า อืม
- /ah/ เหมือนคำว่า อา
- /oo/ เหมือนคำว่า อู
- /ee/ เหมือนคำว่า อี
- /sh/ เหมือนคำว่า ชู
- /s/ เหมือนออกเสียง สึ
การตรวจสอบเหล่านี้นั้นมีความสำคัญเพื่อให้คุณมั่นใจว่าอุปกรณ์ช่วยการได้ยินของลูกน้อยทำงานเป็นปกติ และลูกน้อยสังเกตเห็นและฟังเสียงต่างๆ รอบ ๆ ตัวเขา
ไฟ้ทดลองสิ่งนี้
เสียงหกเสียงของ ดร. ลิงค์นั้นสามารถนำมาใช้ได้กับระยะห่างระหว่างคุณ และลูกน้อยได้หลายระยะ ให้สังเกกตกกุว่า ระยะห่างเท่าใดที่ตุณต้องอยู่ใกล้ลูกพอที่เขาจะตระหนักเสียง และ ระบุเสียงได้ ให้ทดลองการออกเสียงในระดับการสนทนาปกติ ในระยะ 1 เมตร (หรือ 3 ฟุต) 2 เมตร (หรือ 6 ฟุต) และ 4 เมตร (หรือ 12 ฟุต) ลูกคุณตอบสนองในระยะเหล่านี้อย่างไรบ้าง? เขาตอยสนองอย่างไร? ข้อมูลเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยินและครูฝึกพูดผ่านทักษะการฟัง
เอกสารนี้ อธิบายถึงการตรวจสอบการฟังประจำวันให้กับลูกน้อยวัยก่อนเข้าเรียนของคุณ
การได้ยินของลูกวัยก่อนเข้าเรียน
ในช่วงวัย 3-5 ปี ลูกน้อยของคุณควรจะมีภาษาพูด และมีพัฒนาการด้านภาษาได้ในระดับเท่าอายุจริงของเขา ให้คุณคุยกับครูฝึกพูดผ่านทักษะการฟัง ครูประจำชั้น หรือผู้ดูแลเกี่ยวกับความคาดหวังที่เป็นไปได้ในวัยนี้
ให้คุณหมั่นตรวจสอบว่าลูกได้ยินอะไรที่บ้าน และ ที่โรงเรียน ให้คุณสังเกต และจดเสียง หรือ คำพูดที่ลูกได้ยิน ลำบาก หรือไม่ได้ยินไว้ เพราะมันอาจจะเป็นได้ว่าเกิดความเข้าใจผิด ไม่ได้ทำตามคำแนะนำ หรือออกเสียงผิดพลาด หากว่าลูกไม่ได้ยินคำเดิม ๆ หรือบางส่วนของประโยค มันอาจจะเป็นปัญหาที่อุปกรณ์
พูดคุยกับครูที่โรงเรียน และผู้ดูแลลูกน้อยของคุณอยู่เสมอ เพื่อสอบถามว่าเขาได้สังเกตความเปลี่ยนแปลงของการตอบสนองของลูกคุณหรือไม่ คุณควรจะนำข้อมูลที่ได้รับ มารายงานให้กับครูผู้ที่สอนการพูดผ่านทักษะการฟัง เพื่อการตรวจสอบโดยทันที
การนัดหมายกับผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยิน
คุณควรจะทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยินอย่างสม่ำเสมอ เพื่อการตรวจสอบสถานการณ์ได้ยินของลูกน้อย ในช่วงเวลานี้ การนัดหมายกับผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยินจะเกิดขึ้นทุก ๆ 6 เดือน จนลูกย่างเข้า 4-5 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยิน จะแจ้งคุณว่าเมื่อใดที่การนัดหมายจะขยายไปเป็นรายปี
เมื่อใดที่พึงนัดหมายผู้เชี่วชาญด้านการได้ยิน
นอกเหนือจากตารางนัดหมายตามปกติแล้วนั้น คุณสามารถขอนัดหมายได้เสมอ ที่คุณมีข้อกังวลเกี่ยวกับการได้ยินของลูกน้อย หรืออุปกรณ์ทำงานไม่เป็นปกติความกังวลเหล่านี้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยของคุณเองด้วย
การตอบสนอง
- การไม่ได้ยินเสียงบางเสียง คำบางคำ หรือบางส่วนของประโยค
- ตอบสนองเสียงบางเสียงไม่เหมือนเดิม ในช่วงการทดสอบการฟังประจำวัน
- ตอบไม่ตรงตำถาม (เช่นตอบว่า “ใช่” ในคำถามที่เป็นประโยคปลายเปิด)
- ดูเหมือนว่าไม่สนใจบทสนทนา
- คุณต้องพูดในระยะใกล้ ถึงจะได้ยิน
คำพูด
- คุณภาพของเสียงเปลี่ยนไป
- เสียงไม่ชัดเจนเมื่อเทียบกับอายุจริง
- ยังไม่สามารถพัฒนาเสียงคำพูดได้ตามวัย
- ยังไม่สามารถพูดได้ในรูปแบบเต็มประโยค
พฤติกรรม
- บ่นเกี่ยวกับพิมพ์หู หืออุปกรณ์
- อยู่ ๆ ก็ไม่สนใจที่จะใส่อุปกรณ์ช่วยการได้ยิน
- อารมณ์หงุดหงิดในช่วงระหว่างวัน
- ไม่เข้าร่วมในบทสนทนาหรือไม่มีการปฏิสัมพันธ์กับบุคคลในครอบครัว
- อยู่ ๆ ก็อยากที่จะอยู่คนเดียว
จำไว้ว่าลูกน้อยของคุณต้องเข้าถึงเสียงทุกเสียง
เพื่อที่เขาจะจะสามารถฟังได้ และพูดได้ ตามเป้าหมายในการสอนพูดผ่านทักษะการฟัง